Tuesday, January 01, 2013

จับ"ปลาข่อน"



     ย่างเข้า "ฤดูหนาว" ที่ผมคาดหวังว่าจะหนาว คราวนั้น ผมกลับบ้านไปช่วงเทศกาลออกพรรษา ปี 2555 ฤดูกาลที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้ที่บ้านผมนั้นทำนาเสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนวันออกพรรษาตั้ง 1 วัน ที่เสร็จเร็วๆแบบนี้ ก็อาศัยคนเหล็กมาเกี่ยวให้ละครับ (แม่เป็นคนจัดการทั้งหมด)
 
     เช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2555 ผมกระตือรือร้น ที่จะตื่นมาเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และ อยากจะย้อนวันวานที่เหมือนจะหวานอยู่อีกครั้ง ความคิดในวัยเยาว์ได้ผลุบๆโผล่ๆ เข้ามาในหัว ผมถือกล้อง(เก็บหลักฐาน) และ ถังสี เดินลงทุ่งนา พร้อมกับหลานชายวัยรุ่นสไตล์นิโกร ชื่อ "ยู" วิ่งนำหน้าผมไปเพื่อเป็นการแสดงว่า เขาได้เจอสิ่งที่ผมอยากจะสัมผัสอย่างมากก่อนตัวผม.........

     สภาพน้ำน้อยๆ แห้งขอด แบบนี้ ภาษาอีสานเขาเรียกว่า "น้ำข่อน" ซึ่งหมายถึง บริเวณที่น้ำเกือบจะแห้งแล้ว แต่ไปรวมอยู่มุมใดมุมหนึ่งของทุ่งนา ซึ่งมีบริเวณที่เป็นหลุมและต่ำกว่า ทำให้น้ำมากระจุกอยู่บริเวณนี้

     เสียงดัง แกร็ดๆ ๆ ๆ ๆ ออกมาจากน้ำข่อน นั่นหมายถึงว่า มี "ปลาข่อน" อยู่ บางท่านไม่เคยได้ยินอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปลาสายพันธุ์ใหม่ "ยู" ไม่รอช้าลงจับปลาข่อนทันที ด้วยความกระตือรือร้นเป็นพิเศษ


     ไม่นานนัก หลานของผมก็เริ่มอวด "ปลาข่อน" ..... "น้าเทียม ยูได้ตัวใหญ่กว่า หลายกว่า....." เสียงจากหลานชายของผม

     ผมและหลานชาย ช่วยกันจับ ปลาที่ได้ก็ได้แ่ก่ ปลาหมอ ปลาช่อน ปลาดุก แต่มีแต่ตัวเล็กๆ สาเหตุก็เพราะว่าฝนมาช้าและไม่ต่อเนื่องทำให้ปลาออกมาไข่ในช่วงฤดูน้ำหลากช้า และลูกปลาก็ใช้ระยะเวลาเติบโตไม่นาน
     สักพักหนึ่ง ปลาก็หมด แต่แค่นี้ ก็อิ่มกันทั้งครอบครัวแล้ว ผมและหลานจึงกลับมาล้างแขนและขา แต่หลานของผม จัดหนักละครับงานนี้ ลงว่ายน้ำในบ่อปลา สบายใจก่อนไปโรงเรียนซะงั้น

     นี่ก็เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ จากวิถีชีวิต คนชนบท อย่างผมและหลาน ซึ่งในปัจจุบัน คนที่เข้ามาอยู่ในสังคมเมืองยากที่จะสัมผัสและเข้าใจได้ถึงความสุขตามวิถีนี้ .....
 คุณแม่ ก้มหน้าก้อมตาไม่มองกล้องเลย....


     ผมไม่ได้ไปจับแค่วันเดียวนะครับ เพราะน้ำไม่ได้แห้งพร้อมกันซะทีเดียว ผมใช้เวลาจับหลาข่อนประมาณ เกือบสัปดาห์ ไปจับคนเดียวมั่ง ไปจับกับ "คุณแม่ของผม" มั่ง.................เอาเป็นว่า กินข้าวกับปลาจนเบื่อกันเลยละครับ แถมยังได้แบ่งปันเพื่อนบ้านอีกเพราะกินไม่หมด...............


     บ่ายๆ วันที่ 12 เดือนนั้นเอง ผมก็ต้องกลับมา สมุทรปราการเพื่อดำเนินตามวิถี....ที่ไม่อยากเป็นต่อไป...เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น (หรือเปล่า....???)

กระเทียม 1 มกราคม 2556 เขียนที่ บางโฉลง

0 comments:

Post a Comment